“สักครั้งในชีวิต” กับเมืองสำคัญ ของ อินเดีย ที่ต้องห้ามพลาด 6 เมือง
ขอบอกเลยว่า ประเทศอินเดีย ช่วงนี้กำลังฮอตฮิตสำหรับนักถ่ายรูปเป็นอย่างมาก
ทั้งสามารถแต่งตัวได้ชิคๆ .. บรรยากาศและแสงสวยๆ .. มุมมองสถานที่ก็งามๆ
ถ่ายรูปออกมาคือ ดีย์มากแม่ !!
วันนี้ น้องปันรัก เลยขอโอกาสมาแนะนำเมืองของประเทศอินเดีย ที่ไม่ควรพลาด หากได้มีโอกาสไปเยือนประเทศอินเดีย
สำหรับคนที่กำลังมองหาว่า จะเที่ยวเมืองไหนดี ? ไปแล้วจะน่ากลัวไหม ? ไปแล้วคุ้มไหม ?
ขอบอกเลยว่า คำว่า .. "สักครั้งหนึ่งในชีวิต" .. เป็นคำที่ต้องใช้กับประเทศนี้จริงๆ น้า
เพราะ สถานที่ สถาปัตยกรรม ศาสนา ผู้คน และวิถีชีวิต โดนเด่นมากจริงๆ
ความสวยงามของสถานที่ที่ติดอันดับ 1 ใน 7 ของโลก
วัฒนธรรมและวิถีชีวิตที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์
และความหลากหลายทางสิ่งแวดล้อมและผู้คน
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ทำให้อินเดียเป็นประเทศที่น่าหลงใหล ชวนให้ไปค้นหา ไปรับประสบการณ์ ของคำว่า “สักครั้งในชีวิต”
แล้วสิ่งเหล่านี้แหละ ที่จะทำให้เพื่อนๆ ตกหลุมรัก ประเทศอินเดีย ไปเลยจ้า
อย่ารอช้า .. น้องปันรัก ขอแนะนำ 6 เมืองอันสวยงามของอินเดีย กันเลย
เป็นอดีตเมืองหลวงของประเทศอินเดีย มีชื่อเรียกว่า “ฮินดูสถาน” อัครา เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยมนา ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย มีประชากรหนาแน่นที่สุดในรัฐอุตตรประเทศ อันดับที่ 19 ในประเทศ และที่สำคัญเมืองอัคราถือว่าเป็นสถานที่ตั้ง “อนุสรณ์สถานแห่งความรัก” หรือ “ทัชมาฮาล” สิ่งมหัศจรรย์ 1 ใน 7 ของโลกในยุคปัจจุบัน ที่ถือได้ว่าเป็นแหล่งก่อเกิดพลังแห่งความรัก ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคน และอีกหนึ่งสถานที่แหล่งมรดกโลกที่ควรค่าแก่การมาเยือน คือ อัครา ฟอร์ต (Agra Fort) พระราชวังที่ถือว่ายิ่งใหญ่ เพราะใช้เวลาในการสร้างยาวนานถึงสามยุคด้วยกัน ของกษัตริย์แห่งราชวงศ์โมกุล สถาปัตยกรรมตัวอาคารสร้างด้วยหินทรายสีแดง และที่แห่งนี้แหละที่เป็นที่คุมขังกษัตริย์ซาจาร์ฮาล ซึ่งพระองค์ใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิต โดยการมองผ่านแม่น้ำยุมนาไปยังทัชมาฮาลที่ซึ่งมเหสีสุดที่รักของพระองค์ประทับอยู่อย่างนิรันดร์
"ชัยปุระ" หรือ “นครแห่งชัยชนะ” ได้รับการกล่าวขนานนามว่า “นครสีชมพู” โดยมีที่มาอันเกิดมาจากเมื่อในปี ค.ศ. 1876 มหาราช ซาราม ซิงห์ (Maharaja Ram Singh) มีรับสั่งให้ประชาชนทาสีชมพูทับบนสีปูนเดิมของบ้านเรือนตนเอง เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงไมตรีจิตในการต้อนรับการมาเยือนของเจ้าชายแห่งเวลส์ (Prince of Waies) มงกุฏราชกุมารของประเทศอังกฤษ ต่อมาภายหลังในยุคของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 7 (King Edward VII) แห่งสหราชอาณาจักร รัฐบาลอินเดียได้มีการออกกฏหมายควบคุมสิ่งก่อสร้างภายในเขตกำแพงเมืองเก่าให้มีการทาสีชมพูทั้งหมด เพราะเหตุนี้จึงทำให้สิ่งก่อสร้างภายในเมืองต่างๆ กลายเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนยังเมืองชัยปุระ สถานที่ยอดฮิตในการถ่ายรูป คือ ฮาวา มาฮาล (Hawa Mahal) หรือรู้จักกันในนาม “พระราชวังแห่งสายลม”
ตัวเมืองจะทอดยาวไปตามชายฝั่งของแม่น้ำเนรัญชรา เมืองแห่งนี้เป็นเมืองสำคัญทั้งของศาสนาพุทธ มีประวัติศาสตร์ทางพุทธศาสนายาวนาน นับเป็นหนึ่งจุดหมายปลายทางที่สำคัญที่สุดของนักแสวงบุญชาวพุทธทั่วโลกที่ต้องการมาสักการะสังเวชนียสถานที่สำคัญ 1 ใน 4 แห่งของพระพุทธศาสนา ( สังเวชนียสถานมีทั้งหมด 4 แห่ง คือ สถานที่ประสูติ, ตรัสรู้, ปฐมเทศนา และปรินิพพาน ) นั่นก็คือ วัดพุทธคยา หรือ วัดมหาโพธิ์ (Mahabodhi Temple) ที่เป็นจุดกำเนิดของศาสนาพุทธ เพราะเป็นสถานที่ที่เจ้าชายสิทธัตถะ ได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่นี่เป็นเวลา 2,500 กว่าปีมาแล้ว เมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้แล้ว พระองค์ก็ได้ประทับอยู่ ณ พุทธคยา เพื่อเสวยวิมุตติสุข (ความสุขอันเกิดจากความหลุดพ้น) อยู่ 7 สัปดาห์ โดยมี ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นต้นไม้แห่งการตรัสรู้ มีทั้งหมด 4 ต้น นับเป็นอนุสรณ์สถานอันทรงคุณค่าและสถานที่แห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ประเภทมรดกทางวัฒนธรรม ขององค์การยูเนสโกอีกด้วย
เมืองพาราณสี หรือ วาราณสี เป็นเมืองที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศอินเดียและยังจัดเป็นเมืองที่มีผู้อยู่อาศัยต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์โลกอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ สังเวชนียสถาน สารนาถ แห่งที่ 3 ( สังเวชนียสถานมีทั้งหมด 4 แห่ง คือ สถานที่ประสูติ, ตรัสรู้, ปฐมเทศนา และปรินิพพาน ) โดยที่แห่งนี้ คือ “ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน” ที่ประดิษฐาน ธรรมเมกสถูป สถานที่ที่พระพุทธเจ้า ทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 และสถานที่แนะนำอีกที หากเพื่อนๆต้องการอินกับบบรยากาศอินเดียโดยแท้จริง ต้องได้ลอง ล่องเรือแม่น้ำคงคา ชมความสวยงามของเมืองพาราณสี และชม พิธีคงคาอารตี หรือที่เรียกอีกอย่างว่า พิธีบูชาไฟ เป็นพิธีกรรมหนึ่งที่ปฎิบัติกันมาแต่โบราณ เป็นการแสดงความเคารพสูงสุดต่อพระแม่คงคา
ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศอินเดีย หรือที่ได้รับขนานนามว่า “ดินแดนสวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย” เป็นดินแดนกลางเทือกเขาหิมาลัยที่มีธรรมชาติสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ แคชเมียร์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรัฐที่มีความหลากหลายทางภูมิประเทศที่คล้ายคลึงกับประเทศฝั่งยุโรป เนื่องจากมีทั้งแบบเทือกเขา พื้นที่ราบบนภูเขา ภูเขาหิมะ ทุ่งหญ้า และทะเลสาบ และที่สำคัญแคชเมียร์เป็นเมืองที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ยังมีทัศนียภาพด้านหลังเป็นวิวของทะเลสาบดาล ซึ่งยิ่งทำให้ที่นี่สวยงามยิ่งขึ้นไปอีก หากใครได้มาเยือนเป็นอันต้องตกหลุมรักกันทุกคน สำหรับใครที่อยากอินกับบรยากาศสวิตจริงๆ แนะนำต้องไปที่ พาฮาลแกม (Pahalgam) หุบเขาแกะแห่งแคชเมียร์ ขึ้นชื่อในเรื่องของความงดงามของวิวทิวทัศน์ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาหิมาลัยที่ถูกปกคลุมด้วยธารน้ำแข็งตลอดทั้งปี ป่าสนเขียวสดสะพรั่ง และแม่น้ำลิดเดอร์อันใสเย็น และในช่วงฤดูร้อนจะมีดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง และอีกเมืองที่สายฮิปสเตอร์ สายลุย ห้ามพลาด !! ... นั่นก็คือ เมืองเลห์-ลาดักฮ์ เป็นเมืองในหุบเขา ที่ได้ฉายาว่า ทิเบตน้อยแห่งชมพูทวีป .. คือ ถ่ายรูปแล้ว ฮิปมากแม่ !!
หรือในชื่อท้องถิ่นว่า ดิลลี ชื่อเต็มคือ National Capital Territory of Delhi เป็น เมืองหลวง มหานครที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของอินเดีย ถือเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางด้านการเมืองการปกครองประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลก แบ่งออกเป็น 2 เขต ได้แก่ เขตเดลีเก่า และเขตนิวเดลีใหม่ หรือนิวเดลี ซึ่งที่นี่ประกอบไปด้วยโบราณสถาน พิพิธภัณฑ์ สวน ร้านค้า การแสดง อาหาร หมู่บ้านเก่าแก่ หมู่โบราณสถาน แนะนำสถานที่ที่ต้องเช็คอินถ่ายรูปขึ้น IG คือ กุตับมีนาร์ (Qutub Minar) หอคอยสุเหร่าที่สูงที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในกรุงนิวเดลี มีความสูงประมาณ 72.5 เมตร หรือ 237.8 ฟุต เป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงนิวเดลี ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ. 1993 สร้างด้วยหินทรายแดง และหินอ่อน ภายในมีบันไดวนไปถึงยอดรวม 379 ขั้น
สำหรับใครที่มองหา แพคเกจทัวร์อินเดีย โปรแกรมดีๆ ราคาโดนๆ ติดต่อสอบถาม น้องปันรักได้เลยนะจ้า
หรือสามารถติดตาม #ทัวร์อินเดีย ได้ที่ http://bit.ly/2LnEenM
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ :
ทัก Line : http://bit.ly/2GmxIvM
Tel : 0-2193-0555 Mb. : 06-1558-0555
www.panfantour.com
CR. ขอขอบคุณภาพสวยๆ จาก Zego Travel & Best Indochina Travel